บาร์เซโลน่า (Barcelona) เป็นสโมสรฟุตบอลชื่อดังที่มีผลงานน่าประทับใจในฟุตบอลโลก ตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เหตุการณ์ที่ทำให้การย้ายทีมของบาร์เซโลนาเกิดขึ้นในปี 2564 เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากและสร้างกระแสข่าวอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอล ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อลิโอเนล เมสซี สตาร์ของบาร์เซโลนาเป็นซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินาที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร เผยแพร่ข่าวว่าเขาจะไม่ขยายสัญญาที่เหลือกับบาร์เซโลน่า เนื่องจากปัญหาทางการเงินและข้อจำกัดทางเทคนิคของลีกฟุตบอลสเปน

ประกาศข่าวด่วนระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นับเป็นข่าวที่ช็อกวงการกีฬาอีกครั้ง และอาจน่าตกใจยิ่งกว่าตอนที่ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนติน่าประกาศอำลาสโมสรเมื่อปีที่แล้ว เพราะนี่คือการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่าต่อจากนี้ เมสซี่ จะไม่ใช่นักเตะของ บาร์เซโลน่า อีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้แม้โดยสถานะแล้วดาวเตะวัย 34 ปีจะไม่ได้เป็นผู้เล่นของสโมสรเนื่องจากสัญญาเดิมหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายน แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงเชื่อมโยงกันด้วยความผูกพันและอยู่ระหว่างการหาทางออก ด้วยกัน

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือออกมาเป็นระยะๆ ว่าเมสซี่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับบาร์ซ่า รวมถึงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 ส.ค.) ก็มีกระแสข่าวว่าจะเป็นวันดีที่ปัญหาคาราคาซังของทั้งสองฝ่ายจะจบลงด้วยดี แต่ผลสรุปที่ได้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีเงื่อนงำที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับบุคคลที่สามอย่างลาลีกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สัญญาระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่เกิดขึ้น

เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น นี่คือคำอธิบายทั้งหมด ณ เวลานี้ว่าทำไม ลิโอเนล เมสซี่ ถึงอยู่บาร์เซโลน่าไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นในการเจรจาสัญญากับเมสซี่? ย้อนกลับไปเมื่อเกือบปีที่แล้ว เมสซี่ ครั้งหนึ่งเคยทำให้โลกช็อกด้วยการประกาศว่าเขาต้องการออกจากทีมบาร์เซโลน่าอย่างอิสระตามเงื่อนไขที่เขามีไว้กับบาร์เซโลน่า โดยให้เหตุผลว่าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องอำลาทีม ขณะที่ลึกๆ แล้วดาวเตะชาวอาร์เจนติน่าก็มีปัญหากับ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร ตอนนั้นอาการสาหัส

ในเวลานั้น Bartomeu บังคับให้เมสซี่อยู่ที่สโมสร โดยใช้เงื่อนไขสัญญาและขั้นตอนการฟ้องร้องเป็นข้อต่อรอง ซึ่งสตาร์เบอร์ 1 ขวัญใจแฟนบอลไม่อยากมีปัญหากับสโมสรที่ยอมทุกอย่างจึงประกาศขอทำทีมต่อไปและจะอำลาทีมที่ สิ้นสุดฤดูกาล คลี่คลายตามลำดับ Bartomeu และทีมของเขาถูกขับออกจากสโมสรในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก่อนถูกสมาชิกสโมสรบาร์เซโลน่าลงมติไม่ไว้วางใจและทำการเลือกตั้งใหม่

ประธานคนใหม่ของสโมสรคืออดีตประธาน Joan Laporta ซึ่งเป็นประธานคนแรกที่เมสซี่รู้จัก การกลับมาของ Laporta ทำให้เกิดความหวังว่าเมสซี่จะอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งก็จริง เพราะได้ประกาศเป็นนโยบายของสโมสรอย่างชัดเจนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือพยายามให้ เมสซี อยู่ในถิ่น คัมป์ นู ต่อไป และดูเหมือนว่าทางฝั่งของดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์จะมีท่าทีที่อ่อนลงกว่าเดิมมาก เพื่ออยู่กับบาร์ซ่าต่อไป เมสซีได้แจ้งให้สโมสรทราบว่าเขายินดีที่จะยอมรับการลดเงินเดือนลง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าจะลดลงจาก 45 ล้านปอนด์ต่อปีเหลือเพียง 20 ล้านปอนด์ต่อปีสำหรับสัญญา 5 ปี โดยวางแผนไว้เป็นระยะเวลา 2 ปีกับบาร์ซ่า และอีก 3 ปีในสหรัฐอเมริกาในฐานะทูตของสโมสร ซึ่งเป็นสัญญาที่สวยงามสำหรับเมสซี่

การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายล่าช้าและมีความคืบหน้าน้อยมากด้วยเหตุผลสองประการ หนึ่งคือภาระหนี้ก้อนโตของบาร์เซโลนากว่า 1,173 ล้านยูโร ซึ่งมีทั้งหนี้ระยะสั้นและหนี้นอกระบบ ระยะยาว อย่างที่สองคือตามกฎ Financial Fair Play ของลาลีกา ซึ่ง ‘ไม่อิง’ กับกฎของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) บาร์เซโลนาไม่ได้รับอนุญาตให้ขยายสัญญาของเมสซี และในความเป็นจริง พวกเขาไม่สามารถเซ็นสัญญาผู้เล่นคนอื่นได้เลย แม้แต่เมมฟิส เดปาย หรือเซร์คิโอ อเกวโร ที่ได้รับฟรีๆ
ดังนั้นแม้ว่าฝ่ายของ Barca และ Messi จะตกลงกันได้นานแล้ว แต่เมื่อติดอยู่ใน 2 เงื่อนไขนี้ ทำให้ไม่สามารถเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้พยายามหาทางออกที่ดีที่สุด และเป็นข่าวดีเช่นกันที่ลาลีกาตัดสินใจขายหุ้น 10% เพื่อแลกกับเงิน 2.7 พันล้านยูโรที่คาดว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง และนำไปสู่การยอมรับของบาร์ซ่าและเมสซี่ในที่สุดว่าการเซ็นสัญญาไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการออกแถลงการณ์ของ บาร์เซโลน่า ว่า “แม้ทั้งสองฝ่ายจะมีความปรารถนาที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ แต่มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้” แต่ในถ้อยแถลงนั้น มีเส้นแบ่งระหว่างบรรทัดที่แม้จะไม่ได้เขียนไว้ แต่ก็อ่านได้ชัดเจน

อ้างอิงจาก : thestandard.co

---

อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ juniorpantherz.com อัพเดตทุกสัปดาห์